เป็นหนังที่เหมาะสมกับระยะเวลานี้จริงๆเนื่องจากว่าเป็นตอนๆที่สายหนาวเบาๆเลือนหายไป แล้วก็ดอกไม้กำลังจะเบ่งบานเบิกบานใจขึ้นอีกรอบ เหมือนกับ ดอกซากุระที่ประเทศญี่ปุ่นก็กำลังจะมีดอกงามน่าอัศจรรย์งานในช่วงนี้ นี่จุดเป็นจังหวะที่สมควรที่กำลังจะได้ดูหนังรัก “Love Like the Falling Petals” (ใบไม้ผลิที่ไม่มีคุณเป็นซากุระ) ที่มาพร้อมด้วยความรักหวานๆความเกี่ยวข้องเนิบๆเป็นสไตล์หนังรักดราม่าช้าๆแบบประเทศญี่ปุ่น
Love Like the Falling Petals เกิดเรื่องราวของ ฮารุโตะ อาซะกุระ หลงรักกับสาวช่างแต่งผม ไม่ซากิ อาริอะเกะ ตั้งแต่ต้นเจอ ทำให้เขาเก็บความองอาจ…ที่จะชักชวนคุณออกเดต แต่ว่าปรากฏว่ากรรไกรได้ตัดฉับเข้าที่เข้าทางใบหูของเขาในบัดดล! ไม่ซากิจริงจังตั้งมั่นที่ต้องการจะไปถึงเป้าหมายในอาชีพช่างเสริมสวย แม้กระนั้นในช่วงเวลาที่ฮารุโตะที่เกือบทิ้งความฝันการเป็นช่างถ่ายรูปอาชีพไป แม้กระนั้นคุณมาช่วยเติมเต็มแล้วก็ทำให้เขาไขว่คว้าฝันอีกที แต่ว่าปราฏว่าคุณถูกวิเคราะห์เป็นโรคแก่ก่อนวัยอันควรจะ เพราะว่าอายุและก็ตอนวัยของคุณจะรีบสปีดเร็วกว่าคนธรรมดาถึง 10 เท่า
หนังประเด็นนี้ปรับเปลี่ยนมาจากนิยายรักประเทศญี่ปุ่นขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าที่มีชื่อเดียวกันของ “เคอิซุเกะ อูยามะ” โดยได้ผู้กำกับหนังฟีลกู้ด “โยชิฮิโระ ฟูกะงะวะ” (จาก Finding Calico กลับไปอยู่บ้านเหอะนะ…เจ้าเหมียว) ที่มาในคราวนี้ยังคงถ่ายทอดด้วยความเป็นหนังดราม่าออกมาได้ในแบบสูตรสำเร็จฉบับประเทศญี่ปุ่นโดยแท้จริง หนังมีมุมกล้องถ่ายภาพและก็มุมภาพที่บาดใจ การใช้สีธรรมชาติเข้ามาช่วยเติมเต็มส่วนประกอบอารมณ์ของหนัง นับว่าทำออกมาได้ออกจะดี รวมทั้งช่วยบิ้วท์อารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม
ถึงกระนั้นกลับโชคร้ายที่ตัวหนังในรูปภาพรวมแล้ว ยังไม่ค่อยน่าสนใจจิตใจและก็บีบคาดคั้นอารมณ์ผู้ชมได้ซักเท่าไหร่ เพราะเหตุว่าความจำเจของหนังที่ราวกับจะบากบั่นอย่างมากที่จะเรียกน้ำตาจากผู้ชมให้ได้ เปลี่ยนเป็นการคาดคะเนคั้นอารมณ์ที่ทำออกมาได้ยังไม่สุดทาง และก็ความเนิบช้าและก็ยาวย้วยของตัวหนังก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่รอบ่อนทำลายอารมณ์ทั้งสิ้นไปด้วย หนังสามารถกระชับได้มากกว่านี้ด้วย กลับลากยาวมาเป็นหนัง 2 ชั่วโมงที่ผู้ชมเกือบจะใจจะขาด
เค้าโครงเรื่องของ Love Like the Falling Petals จะบอกตรงๆก็คือออกจะเชยแล้วก็น้ำเสียสไตล์หนังรักประเทศญี่ปุ่น ไม่ได้ต่างอะไรกับหนังเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมาเลย กับพล็อตกล้วยๆที่สร้างสตอปรี่ให้พระเอกนางเอกมาเจอะกันในเหตุการณ์แปลกๆแบบประเทศญี่ปุ่น แล้วต่อจากนั้นก็ปรับปรุงความเชื่อมโยงรวมทั้งลากไปถึงเงื่อนดราม่าที่ออกมาจากเหนือจินตนาการไปสักนิดสักหน่อย มองโดยรวมและก็นับว่าไม่มีอะไรที่รู้สึกทำให้ว้าวรวมทั้งสร้างความแปลกใหม่อะไรก็ตามท้ายที่สุดก็เปลี่ยนออกมาเป็นเพียงแค่หนังรักดราม่าปกติเรื่องหนึ่ง ที่ยังไม่ค่อยมีอะไรให้น่าจำนัก
ทางด้านการแสดงก็จัดว่าคู่พระนาง “เคนโตะ นากาจิมะ” กับ “โฮโนกะ มัตสึโมโตะ” ทำออกมาได้ดิบได้ดีตามมาตรฐานของทั้งสอง พวกเขาสามารถประครอบครองเสน่ห์ของผู้แสดงแล้วก็หน้าที่ที่ได้รับเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม เพียงแค่แอบผิดหวังบางส่วนที่ในรูปภาพรวมนั้น ความพากเพียรจะดราม่าในส่วนของการเล่าเรื่องนั้น ไม่สามารถที่จะเกื้อหนุนพร้อมกันกับไปการแสดงของดาราสักเท่าไหร่ ติดอยู่แรกเตอร์ยังมองขาดๆเกินๆและก็ยังกำเนิดความห่างเหินระหว่างนักแสดงกับผู้ชมเป็นช่องว่างที่เว้นเอาไว้อยู่
ตกลงว่าในรูปภาพรวมนั้น Love Like the Falling Petals ก็เป็นหนังสูตรสำเร็จที่อย่างไรก็ขายได้จากประเทศญี่ปุ่น เป็นความรักดราม่าเรียกน้ำตา แต่ยังไม่สามารถที่จะทำให้ผู้ชมร้องไห้ได้สักเท่าไหร่ เค้าโครงเรื่องก็ออกแนวเพ้อๆสไตล์ประเทศญี่ปุ่นขา ใส่ความสดใหม่ในหนังประเด็นนี้เกือบจะยังไม่พบ การเล่าเรื่องที่ช้าเนิบและก็อืดอาดยืดยาดของหนังก็พลอยผลักอารมณ์ของหนังไปตาม ซ้ำยังเลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นบางทีอาจจะพาทำให้ผู้ชมยังไม่รู้เรื่องสึกอินไปกับความรักระหว่างคู่พระนางเลยด้วย เนื่องจากตอนต้นๆเล่าได้กระชับ แม้กระนั้นดันมาย้วยตั้งแต่ระหว่างทางเป็นต้นไป
โดยสรุปแล้ว Love Like the Falling Petals ก็คงเป็นหนังรักธรรมดา ที่เหมาะสมกับบรรยากาศเดี๋ยวนี้ แต่ว่าหนังยังไม่มีอะไรให้เป็นที่น่าจำสักเท่าไหร่ เสมือนได้ย้อนกลับไปดูหนังรักประเทศญี่ปุ่นเมื่อสัก 10 ปีกลาย พล็อตบ่อยๆขายดราม่าย้วยๆเป็นอะไรที่พอใช้ได้ฆ่าเวลา และไม่ได้น่าจำจนถึงต้องการจะจับมาเปิดมองซ้ำสักเท่าไหร่...