ถึงคิวอีกหนึ่งหนังที่ค่อนข้างจะมีคอนเซ็ปต์ที่น่าดึงดูด หากว่าแนวความคิดต่างๆของหนังจะออกจะมองซ้ำและไม่ได้แปลกใหม่สักเท่าไหร่จากหนังไซไฟที่คนกับหุ่นยนต์จำเป็นต้องดำเนินชีวิตด้วยกัน แต่ว่าสำหรับ “After Yang” ประเด็นนี้ แปลงเป็นหนังชีวิตผสมความเป็นไซไฟที่มาเพื่อไขปัญหาและก็ค้นหาคำตอบที่ชีวิตให้กับผู้ชมด้วยการร้อยเรียงเรื่องราวที่บรรจงแล้วก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป อาจจะกล่าวว่าหนังหัวข้อนี้ไม่ใช่หนังในกระแส แม้กระนั้นแกนหลักของประเด็นนี้…หนักแน่นเกินกว่าที่คาดหวังเอาไว้ไม่น้อย
After Yang เกิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ครอบครัวเล็กๆจะต้องประจันหน้ากับบททดลองที่ชีวิตที่สำคัญ เมื่อหุ่นยนต์แอนดรอยที่พวกเขาเลี้ยงดูไว้ ที่ชื่อว่า หยาง กำเนิดปัญหาติดขัดบางสิ่งบางอย่าง ทำให้ เจค ต้องหาแนวทางสำหรับเพื่อการช่วยเหลือแล้วก็ซ่อมแซมระบบให้หยางกลับมาปกติ โดยที่บุตรสาวของเขาที่สนิทรวมทั้งรักหุ่นยนต์ตัวนี้ราวกับพี่ชายแท้ๆจะต้องทนทุกข์ทรมานกับวันที่ไม่มีหยาง เขากับเมียจำเป็นต้องเกื้อหนุนและก็อุตสาหะหาทางออกให้กับปัญหานี้ โน่นก็เลยเป็นจุดกำเนิดที่ทำให้เขากับครอบครัวได้พบเห็นกับอีกมุมที่ไม่คิดว่าจะมีอยู่จริง
นี่เป็นผลงานของ “วัวโกนาดะ” ผู้กำกับชายหนุ่มเชื้อสายทวีปเอเชียผู้มีสไตล์สำหรับในการเล่า นี่ถือได้ว่าหนังยาวเรื่องที่ 2 ของเขาในอาชีพผู้กำกับ แล้วก็เขาก็เพิ่งส่งผลงานแจ่มๆในซีรีส์ Pachinko ออกฉายไปหมาดๆด้วย การตกผลึกรวมทั้งคั้นเรื่องราวออกมาจากมุมมองการนำเสนอของเขานั้น เต็มไปด้วยเสน่ห์รวมทั้งสไตล์ที่สวยงาม ถึงแม้การเดินเรื่องจะค่อนข้างจะเนิบช้าแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป จะต้องสารภาพว่าระยะแรกๆทำเอาง่วงหงาวหาวนอนได้อยู่เช่นกัน
แต่ว่าเมื่อหนังเริ่มปรับจูนแล้วก็นำทางหลักสำคัญได้ลงร่องลงรอยแล้ว ตอนช่วงหลังของ After Yang ก็เต็มไปด้วยทำนองเพลงที่ลึกซึ้งรวมทั้งเพราะพร้อมๆกัน กับมุมมองแนวความคิดเชิงปรัชญาชีวิตที่หนังได้แทรกสอดเอาไว้ได้อย่างถูกจุด แล้วก็ทรงอำนาจไปจนกระทั่งจุดหมายปลายทาง ทำให้มีความรู้สึกว่าหนังที่ทีแรกๆจะพองแล้วก็ยาวเหลือเกิน
After Yang ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขมาจากเรื่องสั้นในหนังสือเยาวชน กับในตอนที่มีชื่อว่า “Saying Goodbye to Yang” ที่เผยแพร่ออกมาเป็นหนังเรื่องยาวที่ค่อนๆไล่ระดับความทรงอำนาจจากน้อยไปถึงมากมายได้อย่างอิ่มเอม โดยยิ่งไปกว่านั้นการใส่แกนเรื่องเป็นการค้นหาคำตอบของความหมายที่ชีวิตในหนังหัวข้อนี้ จากเริ่มต้นที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่หนังไซไฟปกติแล้วก็เบาๆใส่กิมไม่กรวมทั้งข้อมูลเพิ่มเข้ามาเรื่อยได้อย่างทับถมจิตใจ ก่อนที่จะกัดประทับใจผู้ชมในตอนคลื่นใหญ่ชุดท้ายที่สุดที่ถั่งโถมจบลงไปด้วยความลึกล้ำถึงความหมายที่หนังอยากสื่อถึง
แคสติ้งของ After Yang จัดว่าพร้อมด้วยความมากมายหลากหลายที่น่าดึงดูดไม่น้อย ยืนหลักด้วย “วัวลิน ฟาร์เรลล์” ที่มาแบกรับหนังดราม่าหัวข้อนี้ทั้งยังเรื่องได้สบายๆการวางแบบผู้แสดงแล้วก็อินเนอร์ของเขาทำเป็นดี เวลาที่ “โจดี้ เทอร์เนอร์–สมิธ” ก็มารับบทเป็นเมียสาว ที่เต็มไปด้วยหน้าที่รับผิดชอบ ส่วนบุตรสาวที่เล่นบทโดย “มาเลีย เอ็มมา” ก็แบกรับบทนี้ได้ค่อนข้างจะน่าทึ่งและก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม