ต่อเนื่องกันด้วยภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญกันอีกประเด็นในอาทิตย์นี้ กับการคืนสนามของบริษัทหนังใบโพธิ์ที่อยู่คู่แวดวงภาพยนตร์ไทยมานับเป็นเวลาหลายปี อย่าง สหมงคลฟิล์มฯ ที่ได้ส่งหนังผีที่เคยเป็นแถวถนัดของค่ายนี้ในสมัยก่อนกลับสู่สังเวียนอีกที ภายหลังจากเว้นระยะห่างไปตอนหนึ่ง แล้วก็นี่เป็น “เทอมสองสยองขวัญ” ที่เป็นการปลุกปั้นความสยดสยอง โดยกลุ่มดาราหนังรวมทั้งนักสร้างภาพยนตร์แบบใหม่ที่พร้อมแจ่มแจ้งกำเนิด ถึงจะสำเร็จงานในขั้นเดบิวต์ แม้กระนั้นปรากฏว่าผลที่ออกมานั้น เป็นการคืนฟอร์มให้กับค่ายได้อย่างยิ่งจริงๆ
เทอมสองสยองขวัญ เป็นหนังที่จะแบ่งได้ 3 เรื่องราวในหนังเรื่องเดียว ที่จะแบ่งประเภทและชนิดออกเป็นหนังที่มีรายละเอียดจบในเวลานั้นๆไม่มีการส่วนเชื่อมโยงอะไร ซึ่งแต่ละเรื่องราวก็ได้แรงจูงใจมาจากตำนานเรื่องเล่าตอบรับถึงความเร้นลับสยองขวัญจากสถาบันต่างๆในประเทศไทย แต่ละเรื่องก็มีภูมิหลังรวมทั้งฟังชินหูผู้ชมบ้าง ซึ่งได้ถูกเอามาขยายเป็นหนังขนาดปานกลาง ความยาวช่วงละ 40-45 นาที ในจังหวะที่กำลังพอเพียง โดยเหตุนั้น ก็เลยจะมีผลให้รีวิวแบ่งได้เป็นตอนๆดังต่อไปนี้
ขณะที่ 1 : เชียร์ปีในที่สุด
เกิดเรื่องราวของกิจกรรมเชียร์ของเหล่านิสิตเฟรชชี่ที่พึ่งจะเข้ามาเรียนรู้ใหม่ แม้กระนั้น “เมษา” เป็นนิสิตที่มีความพิเศษที่ไม่เหมือนกับผู้อื่นเพราะเหตุว่าคุณสามารถได้ยินและก็เห็นบางสิ่งที่บุคคลอื่นที่มองไม่เห็น แล้วก็โน่นก็ทำให้มิตรภาพระหว่างคุณกับ ต่าย คู่หูเพียงผู้เดียวที่เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยร่วมกัน จำต้องเปลี่ยนไปชั่วกับชั่วกัลป์
ในขณะนี้มี 2 สาว “มิวสิค BNK48″ กับ “ห่วงใย ขว้างณิสรา” เป็นตัวละครยืนเรื่องหลักที่หามหนังอีกทั้งเรื่องเอาไว้ ที่ก็นับว่าพวกคุณทั้งสองปฏิบัติภารกิจของตนได้อย่างดีเยี่ยม รวมทั้งหนังหัวข้อนี้ก็จัดว่ามีความเหมาะเจาะที่จะประยุกต์ใช้เป็นหลักสำคัญเปิดของหนังประเด็นนี้ อีกทั้งการผลิตบรรยากาศและก็จังหวะของหนัง ถ่ายทอดออกมาได้น่าพึงพอใจ และก็ยังแทรกฉากผวาตุ้งแช่เข้ามาได้สมควร กระฉากอารมณ์ผู้ชมจำเป็นต้องกรี๊ดเสียงหลงได้ตั้งแต่เริ่ม
แม้ว่าจะโชคร้ายไปสักหน่อย ที่ เชียร์ปีท้ายที่สุด ดูเหมือนจะมีอะไรให้ขยายแล้วก็เล่าได้อีก แต่ว่าด้วยขณะที่จำกัด ทำให้การติดต่อสื่อสารและก็ถ่ายทอดมิติของผู้แสดงในหัวข้อนี้ยังออกมาได้ไม่ถึงที่สุดนัก ผู้ชมยังเข้าไปไม่ถึงความเป็นตัวตนของ เมษา กับ ต่าย ได้ไม่มากมาย แม้กระนั้นหนังเดี๋ยวนี้ก็จัดว่าหนังทีแรกๆประเด็นนี้มีประสิทธิภาพพอเพียงที่จะมารถนำไปขยายความออกมาเป็นหนังเรื่องยาวเต็มเรื่องได้อยู่
ในตอนที่ 2 : เดอะ ซี
ตอนต้นก็รู้สึกสนเท่ห์ใจนิดหน่อย ว่าเพราะเหตุไรถึงจับเอาในตอนที่มี “เจมส์ ธีรดนย์” ที่น่าจะเป็นดาราแม่เหล็กและก็เบอร์ใหญ่ที่สุดของหนังมาไว้เป็นหนังเรื่องกึ่งกลาง แต่ว่าเมื่อได้ทดลองสัมผัสกับหนทางของหนังหัวข้อนี้ก็เพียงพอจะเข้าจิตใจได้ ด้วยเหตุว่า เดอะ ซี น่าจะเป็นขณะที่ออกจะอ่อนที่สุดในบรรดาหนังอีกทั้ง 3 เรื่องแล้ว แต่ว่าถึงจะอ่อนก็ยังมีลักษณะเด่นที่พอเพียงที่ทำให้หนังออกมาสตรองกว่าที่จะละเลยไปได้
เพราะว่านี่เป็นเรื่องเล่าในวันแต่งตั้งฯ ผีนักเรียนแพทย์ จะกลับมานอนที่เตียงซีของเขาทุกปี แต่ว่าปีนี้ “แทน” นักเรียนแพทย์ปีหนึ่งจำต้องอยู่หอพักเพียงผู้เดียวในคืนนั้น เขาจะเอาชีวิตรอดจากการเผชิญหน้ากับผู้ครอบครองเตียงซีในตำนานได้ไหม โดยหนังปัจจุบันนี้น่าจะกล่าวว่าเป็นตอนที่ไม่มีเหตุผลที่สุดในบรรดาทุกเรื่องแล้ว มีความเอ๊ะ มีการใส่สูตรสำเร็จเก่าๆเข้ามาช่วยประคอง แม้กระนั้นเป็นหนังใจกลางที่เกือบทำให้หลับติดอยู่โรงไปด้วย
แม้กระนั้นก็ไม่สามารถที่จะหลับได้ลง เพราะเหตุว่าคุณลักษณะเด่นของในขณะนี้ก็คือการแสดงของ เจมส์ ธีรดนย์ ที่นับว่าหามหนังอีกทั้งในขณะนี้เอาไว้เพียงผู้เดียวเลยก็ว่าได้ ทั้งยังอินเนอร์และก็ความชำนาญความเป็นมือโปรสำหรับเพื่อการเป็นดาราหนังของเขา ได้ถูกแงะออกมาใช้ในหนังหัวข้อนี้ ทั้งยังกำลังกายรวมทั้งกำลังใจ ที่จะต้องบอกเลยว่าผู้ชมจะรู้สึกลุ้นรวมทั้งอิดโรยไปตามๆกันไปตลอดทั้งในช่วงเวลานี้เลย ดูหนังออนไลน์ไม่มีโฆษณา
เวลาที่ 3 : อาคารวิทย์เก่า
รวมทั้งถือได้ว่าเป็นการเลือกช้อยส์ที่ประจวบเหมาะที่ให้ประเด็นนี้มาเกิดเรื่องจบท้าย เพราะเหตุว่านี่เป็นหนังผีจังหวะโบ๊ะบ๊ะที่ทั้งยังหลอนรวมทั้งอีกทั้งสนุกสนานไปในครั้งเดียวกัน กับเรื่องราวของอาคารวิทย์เก่า ที่มีตำนานสยองขวัญเป็นที่เลื่องลือ แม้กระนั้นไม่ใช่เขาคนนี้ “กอล์ฟ” น้องชายสุดบื้อที่ดันเอาของมาส่งให้ “มีน” พี่สาว ไม่ถูกอาคาร! เลี้ยวไม่ถูกชีวิตแปลง รวมทั้งบางทีอาจนำพาสองลูกพี่ลูกน้องและก็ผองสหายสู่ขิตไปตลอดไป
คงจำเป็นต้องกราบขอบคุณมาก “กิต Three Man Down” ที่เขาเป็นคนที่เข้ามากู้แล้วก็ทำให้ เทอมสองสยองขวัญ จบไปได้อย่างงดงาม เพราะเหตุว่าเดี๋ยวนี้ช่างเฉิดฉันและก็เจิดรุ่งเรืองสำหรับเขาเสียจริง การแสดงอันเป็นธรรมชาติและก็การเข้าถึงหน้าที่ความทะเล้นของเขานั้น เป็นเยี่ยมในเสน่ห์ที่ช่วยประคองหนังประเด็นนี้เอาไว้ได้อยู่มือ เป็นหนังที่มีการใส่จังหวะมาดี เป็นผีคอมเมดี้ที่มองทีเล่นทีจริง แต่ว่าเฮฮาตัวโยกไปด้วย
หากว่าบทหนังจะค่อนข้างจะสกปรกอยู่พอควรก็ตาม กับพล็อตเรื่องของหนังที่มีอยู่เพียงแค่ถือมือ แต่ว่าเนื่องจากว่าได้โอกาสการแสดงอันแสนจะรื่นเริงเริงใจของ กิต Three Man Down และก็ “เบลล์ เฉไม่ศรา” กับ 2 สาวร่วมสมทบ ได้ช่วยเหลือกันพากันหัวข้อนี้ไปได้สุดทางรวมทั้งพาอารมณ์ของผู้ชมไปถึงจุดที่น่าจะไปได้ถึงในสุดท้าย แล้วก็ถือได้ว่าเป็นการสิ้นสุดหนังผีที่ไล่ระดับความพีคได้อย่างยอดเยี่ยมสวยจริงๆ
โดยภาพรวมแล้ว เทอมสองสยองขวัญ ถือได้ว่าเป็นการคืนสู่ฟอร์มที่น่าพึงพอใจของหนังผีจากสหมงคลฟิล์ม จำเป็นต้องสรรเสริญในจังหวะของหนังที่ใส่เข้ามาได้ค่อนข้างจะพอดี แม้ปัญหาสำคัญๆของหนังทั้งยัง 3 ตอนก็คือบทภาพยนตร์ที่ยังค่อนข้างจะน้อยลงแล้วก็อ่อนไปเสียหน่อย แต่ว่าเมื่อนำเอาอีกทั้ง 3 ตอนมารวมกันและก็เป็นหนังประเด็นนี้ ก็นับว่าเป็นหนังผีที่ทำออกมาได้ออกจะน่าพึงพอใจในระดับที่ใช้ได้เลย
ซึ่งถ้าว่าโปรเจกต์หนังประเด็นนี้ออกมาประสบผลสำเร็จ ก็มั่นใจว่าพวกเราคงจะได้โอกาสได้หนังภาคถัดไป หรือบางครั้งอาจจะเป็น เทอมสาม หรือ เทอมซิ่ว ออกมาเป็นจักรวาลสม่ำเสมอให้ได้สนุกสนานกันถัดไป แม้กระนั้นในขณะนี้นับว่าแวดวงภาพยนตร์ไทยได้ให้การต้อนรับนักทำสร้างแบบใหม่มาแต่งแต้มแวดวงแล้ว และก็นับว่าผลงานของพวกเขาที่ออกมาใน เทอมสองสยองขวัญ มิได้น่าเกลียดอะไรเลย และก็น่าจะจะต้องเผ้าคอยมองผลงานหนังใหญ่เรื่องเต็มของพวกเขาในอนาคตถัดไป
